Permanent Link
https://10742.thaicarecloud.org/site/index?id=1Thai Care Cloud
ฐานข้อมูลสุขภาพ และบริการทางการแพทย์ อิเล็คทรอนิก
ศูนย์จัดการข้อมูลและวิเคราะห์ทางสถิติ (Data Management and Statistical Analysis Center ชื่อย่อ DAMASAC) ได้ดำเนินการ โครงการพัฒนาระบบฐานข้อมูล และคลังข้อมูลระดับเขต ในระยะแรก มุ่งให้แสดงรายงานดังกล่าว โดยใช้ข้อมูลจากแฟ้มมาตรฐานข้อมูลด้านการแพทย์ 43 แฟ้ม แต่พบว่ามีข้อจำกัดทั้งความล่าช้า และความครบถ้วน อันเนื่องมาจากกระบวนการส่งต่อข้อมูล นอกจากนั้น ยังมีข้อมูลบางส่วนที่จำเป็นในการวิเคราะห์ให้ได้ผลที่สำคัญนั้น ไม่มีใน 43 แฟ้ม ทั้งที่ในฐานข้อมูลสุขภาพ (HIS: Health information system) มีข้อมูลที่ต้องการทั้งหมด ระหว่างนั้น มีคณะทำงานด้านสารสนเทศทางสาธารณสุขกลุ่มหนึ่งที่จังหวัดร้อยเอ็ด ได้พัฒนาซอฟต์แวร์โดยประยุกต์สถาปัตยกรรม Database trigger ให้ชื่อว่า NemoCare โดยเมื่อหน่วยบริการสาธารณสุขใด ติดตั้ง NemoCare ในเครื่อง server ซึ่งเป็น intranet server แล้ว server จะทำงานส่งต่อข้อมูลเฉพาะที่ร้องขอโดยอัตโนมัติ ไปยัง internet server เพื่อแสดงผลรายงานตามที่กล่าวข้างต้นแบบ real time โดยที่ไม่มีการรบกวนการทำงานของระบบ และไม่เพิ่มภาระงานใดๆ ให้กับหน่วยบริการ ในทางตรงข้าม หน่วยบริการที่เข้าร่วม กลับได้รับผลงาน เช่นรายงานผลการวิเคราะห์ข้อมูล ผลการรับบริการที่คนในพื้นที่ไปรับบริการที่หน่วยบริการอื่น การส่งต่อ ฯลฯ ในแบบ real time อย่างที่ไม่เคยได้มาก่อน นอกจากนั้น ระบบนี้ ยังมีเครื่องมือให้หน่วยบริการสามารถได้รายงานอื่นๆ ที่จำเป็น และสร้างฟอร์มเก็บข้อมูลเพิ่มเติมได้เองกรณีที่ต้องการ ระบบจัดการข้อมูลสุขภาพนี้ มีชื่อเรียกว่า Thai Care Cloud (ที่ http://www.thaicarecloud.org) ซึ่งพัฒนาโดย DAMASAC
Permanent Link
https://10742.thaicarecloud.org/site/index?id=2อยู่ระหว่างปรับปรุงเนื้อหา
Permanent Link
https://10742.thaicarecloud.org/site/index?id=3
Thai Care CloudCONTACTทีมพัฒนา DAMASAC: ศูนย์จัดการข้อมูลและวิเคราะห์ทางสถิติ คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น E-MAIL: damasac@gmail.com TEL: (mobile) (+66)85-001-1123 ติดต่อ รศ.ดร. บัณฑิต ถิ่นคำรพ (ผู้อำนวยการ) |
Permanent Link
https://10742.thaicarecloud.org/site/index?id=5“มะเร็ง” โรคที่สามารถสร้างความตระหนกให้กับคนทั่วไปด้วยความเข้าใจว่า มะเร็งเป็นโรคที่รักษาไม่หาย เป็นแล้วตายอย่างเดียว ซึ่งไม่ว่าจะเกิดกับอวัยวะส่วนไหนของร่างกาย ผลสุดท้ายมักลงเอยด้วยความตายที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ในปี พ.ศ. 2555 องค์การอนามัยโลกพบว่ามีผู้เสียชีวิตจากโรคมะเร็งทั่วโลกราว 8.2 ล้านคน (3 อันดับแรก คือ มะเร็งปอด มะเร็งตับ (รวมถึงมะเร็งท่อน้ำดี) และมะเร็งกระเพาะอาหาร) ซึ่งสูงจากในปี พ.ศ. 2551 ที่เสียชีวิตจำนวน 7.6 ล้านคน ทำให้โรคมะเร็ง เป็นสาเหตุของการเสียชีวิตอันดับต้นๆ ของผู้คนทั่วโลก มีแนวโน้มว่าจำนวนจะเพิ่มขึ้นสูงในทุกๆ ปี และไม่มีวี่แววว่าจะลดลงในอนาคตอันใกล้
ในประเทศไทย โรคมะเร็งเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตอันดับ 1 รองลงมาคือ อุบัติเหตุ และโรคหัวใจ กระทรวงสาธารณะสุขรายงานว่า ในแต่ละปี คนไทยเสียชีวิตจากโรคมะเร็งประมาณ 60,000 ราย หรือเฉลี่ยชั่วโมงละเกือบ 7 ราย โดยเสียชีวิตจาก มะเร็งท่อน้ำดีและตับ สูงเป็นอันดับที่ 1 เฉลี่ยปีละ 14,000 ราย คิดเป็น ประมาณ 38 รายในแต่ละวัน
จากข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขในปี พ.ศ. 2555 พบผู้ป่วยเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งท่อน้ำดีและตับสูงถึงประมาณ 14,000 ราย ซึ่งสูงกว่าข้อมูลเมื่อ 10 ปีที่แล้วที่อยู่ที่ประมาณ 11,000 ราย โดยพบสัดส่วนในเพศชายมากกว่าเพศหญิงถึง 2.5 เท่า
อ้างอิงและแปลงจาก Sripa B, Brindley PJ, Mulvenna J, et al. The tumorigenic liver fluke Opisthorchis viverrini–multiple pathways to cancer. Trends Parasitol 2012;28(10):395-407.
จากสถิติอุบัติการณ์การเป็นมะเร็งตับจากทั่วโลก พบมะเร็งเซลล์ตับ มีอุบัติการณ์สูงเป็นอันดับที่ 1 แต่ในประเทศไทย กลับพบว่ามะเร็งตับชนิดมะเร็งเซลล์ท่อน้ำดีนั้นสูงเป็นอันดับ 1 โดยเฉพาะที่พบในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือ ซึ่งพบว่า อุบัติการณ์การเป็นโรคมะเร็งท่อน้ำดีในประเทศไทยนั้นสัมพันธ์กับการติดเชื้อพยาธิใบไม้ตับ ชนิด Opisthorchis viverrini (Ov) ดังภาพด้านบน ซึ่งจากงานวิจัยพบว่า ประชากรที่อาศัยอยู่ใกล้บริเวณแหล่งน้ำธรรมชาติ เช่น แม่น้ำโขง มีโอกาสติดเชื้อพยาธิใบไม้ตับได้มากกว่าประชากรที่อาศัยอยู่ไกลแหล่งน้ำ แต่โอกาสในการเป็นมะเร็งท่อน้ำดีนั้นยังขึ้นกับปัจจัยอื่นๆร่วมด้วย เช่น พฤติกรรมการรับประทานปลาน้ำจืดที่ติดเชื้อพยาธิใบไม้ตับแบบดิบๆ ซึ่งพบมากในประชากรภาคอีสาน ที่เป็นเช่นนี้เป็นเพราะพฤติกรรมดังกล่าว จะทำให้เกิดการติดเชื้อของพยาธิใบไม้ตับในท่อน้ำดีและเกิดการอักเสบเรื้อรัง ส่งผลให้เกิดการก่อมะเร็งอย่างช้าๆใช้เวลาประมาณ 20-30 ปี โดยผู้ป่วยที่แสดงอาการเป็นมะเร็งส่วนใหญ่ มักเป็นระยะสุดท้ายซึ่งทำให้รักษาได้ไม่ทันท่วงที กว่าจะรู้ตัวก็สายไปเสียแล้ว
แม้ว่าอุบัติการณ์และอัตราการเสียชีวิตของโรคมะเร็งท่อน้ำดีนั้นจะสูงและมีแนวโน้มสูงขึ้นในแต่ละปี แต่ยังโชคดีที่มะเร็งชนิดนี้สามารถรักษาให้หายขาดได้ถ้าตรวจพบในระยะเริ่มต้น ด้วยเทคโนโลยีทันสมัยโดยใช้การตรวจอัลตร้าซาวน์ช่องท้องเพื่อคัดกรองผู้ป่วยมะเร็งท่อน้ำดีในระยะแรก ซึ่งทำให้สามารถวางแผนการรักษาได้ทันเวลา แต่วิธีการที่ดีที่สุด คือ การป้องกันตนเองให้ปลอดภัยจากโรคมะเร็งท่อน้ำดีด้วยการทำความเข้าใจถึงสาเหตุของโรคมะเร็งท่อน้ำดีอย่างถูกต้อง และลงมือปฏิบัติหลีกเลี่ยงพฤติกรรมการรับประทานปลาดิบอย่างจริงจัง
ดร.พรชีรา ชูสอน
นักวิจัยโครงการ CASCAP
appleccafoundation@gmail.com
Permanent Link
https://10742.thaicarecloud.org/site/index?id=6แม้ “ตับ” จะเป็นอวัยวะที่หลายคนรู้จัก แต่หลายคนก็คงไม่ทราบว่าภายในเนื้อตับที่ประกอบด้วยเซลล์ตับจำนวนมากนั้นทำหน้าที่ต่างๆ มากมายเพื่อให้เรามีชีวิตอยู่อย่างปกติสุข และหนึ่งในหน้าที่หลักคือการผลิตน้ำดี น้ำดีที่หลั่งจะถูกลำเลียงผ่านท่อน้ำดีที่แทรกอยู่ภายในเนื้อตับทั้งฝั่งขวาและซ้าย จากนั้นจะรวมกันส่งต่อไปยัง ท่อน้ำดีใหญ่ในตับ แล้วออกนอกตับนำไปเก็บที่ถุงน้ำดี และส่งต่อไปยังลำไส้เล็ก เพื่อใช้ในกระบวนการย่อยไขมันต่อไป ดังนั้น “ท่อน้ำดี” จึงมีบทบาทสำคัญในการลำเลียงน้ำดีเพื่อนำไปย่อยไขมันต่อไปในระบบทางเดินอาหาร
“มะเร็งท่อน้ำดี (cholangiocarcinoma หรือ CCA)” คือ มะเร็งที่เกิดจากความผิดปกติของเซลล์เยื่อบุน้ำดีทั้งในและนอกตับ มะเร็งที่เกิดในท่อน้ำดีในเนื้อตับจะถูกเรียกเป็น “มะเร็งท่อน้ำดีในตับ” (intrahepatic CCA) ส่วนที่เกิดกับท่อน้ำดีนอกตับเรียก “มะเร็งท่อน้ำดีนอกตับ” (extrahepatic CCA) และมะเร็งที่เกิดกับตำแหน่งที่ท่อน้ำดีออกจากตับพอดีเรียกเพอริไฮลาร์ (perihilar CCA)
ข้อมูลของกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข พบสถิติการเสียชีวิตของมะเร็งท่อน้ำดีสูงสุดในปี 2548 หรือเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา โดยเสียชีวิตประมาณ 25,000 ราย คิดเป็นอัตราการเสียชีวิตวันละ 70 คน หรือเฉลี่ยชั่วโมงละ 3 ราย นายแพทย์สุพรรณ ศรีธรรมมา อธิบดีกรมการแพทย์เปิดเผยว่า โรคมะเร็งใน ปี 2554 พบคนไทยเสียชีวิตจากโรคมะเร็งท่อน้ำดีและตับจำนวน 14,314 ราย ประมาณครึ่งหนึ่งเป็นคนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หรือประมาณ 7,539 ราย
รองลงมาคือภาคเหนือ จำนวน 2,638 ราย และจากสถิติโรงพยาบาลศรีนครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ปี 2556 พบผู้ป่วยมะเร็งตับและมะเร็งท่อน้ำดีรายใหม่มากกว่า 1,765 ราย ซึ่งมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆทุกปี โดยเป็นมะเร็งท่อน้ำดี 63% (1,108 ราย) มะเร็งตับ 18% (320 ราย) โดยประมาณร้อยละ 55 เกิดขึ้นกับประชากรวัยทำงานที่เป็นหัวหน้าครอบครัวอายุระหว่าง 40-60 ปี ซึ่งถือเป็นโรคที่รุนแรงและก่อให้เกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจ สังคม คุณภาพชีวิตของคนในสังคมเป็นอย่างมาก
มะเร็งท่อน้ำดีของคนไทยโดยเฉพาะคนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือนั้นเกิดจากอุปนิสัยที่ชอบรับประทานปลาน้ำจืดมีเกล็ดแบบสุกๆ ดิบๆ โดยการปรุงอาหารที่ไม่ถูกสุขลักษณะ เช่น ปลาร้าดิบ ก้อยปลา ส้มปลา ซึ่งมีระยะติดต่อของพยาธิใบไม้ตับ (Opisthorchis viverrini) ที่อาศัยอยู่ใต้เกล็ด พยาธิใบไม้ตับที่เข้าสู่ระบบทางเดินอาหารจะเข้าไปอาศัยอยู่ที่ท่อน้ำดี ทำให้เกิดการติดเชื้อของพยาธิใบไม้ตับในท่อน้ำดีและเกิดการอักเสบเรื้อรัง ทำให้เกิดการสร้างอนุมูลอิสระเป็นจำนวนมาก มีการซ่อมแซมส่วนที่บาดเจ็บของเซลล์เยื่อบุผิวท่อทางเดินน้ำดี ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการก่อมะเร็งอย่างช้าๆ โดยใช้เวลาประมาณ 20-30 ปี โดยผู้ป่วยที่แสดงอาการเป็นมะเร็งส่วนใหญ่ มักเป็นระยะสุดท้ายซึ่งทำให้รักษาได้ไม่ทันท่วงที โรคร้ายนี้จึงเป็นภัยเงียบของคนไทยที่อยู่คู่กันมาช้านาน
จากการประมาณการพบว่าคนอีสานกว่า 20 ล้านคน ติดเชื้อหรือเคยติดเชื้อพยาธิใบไม้ตับกว่า 6 ล้านคน หรือนับเป็นหนึ่งในสามของประชากรในภูมิภาค การรักษาโรคพยาธิใบไม้ตับคือให้ยาถ่ายพยาธิชนิดพราซิควอนเทล (Praziquantel) ซึ่งหากประชากรมีความเข้าใจถึงการป้องกันโรค และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหาร จะช่วยให้อุบัติการณ์ของโรคมะเร็งท่อน้ำดีลดลงเป็นอย่างมากในอนาคต
กล่าวโดยสรุป โรคมะเร็งท่อน้ำดีนั้นเป็นมะเร็งของเซลล์เยื่อบุท่อน้ำดีที่มีตำแหน่งเกิดได้ทั้งภายในตับและภายนอกตับ ดังนั้นจึงมีคนจำนวนมากเข้าใจผิดว่า มะเร็งท่อน้ำดีนั้นคือมะเร็งตับ ทั้งนี้สาเหตุโรคมะเร็งทั้งสองชนิดนั้นต่างกัน กล่าวคือมะเร็งตับมีสาเหตุหลักมาจากการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ พิษสุราเรื้อรัง และสารพิษจากเชื้อราแอฟล่าท็อกซิน ส่วนมะเร็งท่อน้ำดีในภาคอีสานเกิดจากการติดเชื้อพยาธิใบไม้ตับอันเนื่องมาจากพฤติกรรมเสี่ยงจากการรับประทานปลาน้ำจืดดิบ ดังนั้นการทำความเข้าใจในเบื้องต้นถึงสาเหตุ และตำแหน่งของการเกิดโรคจึงมีความสำคัญ เพื่อนำไปสู่แนวทางการป้องกันและรักษาที่ยั่งยืนตลอดไป
http://www.vitamins-b17.com/โรคมะเร็งฆ่าชีวิตคนไทย...
http://pr.moph.go.th/iprg/include/admin_hotnew/sho...
Hospital-Based Tumor Registry, Srinagarind Hospital, Khon Kaen University, Statistical Report (2013). Cancer Unit, Faculty of Medicine Khon Kaen University
ดร.พรชีรา ชูสอน
นักวิจัยโครงการ CASCAP
appleccafoundation@gmail.com
Permanent Link
https://10742.thaicarecloud.org/site/index?id=7วัฐจักรของพยาธิใบไม้ตับ ที่พบเห็นทั่วไปในพื้นที่ภาคอีสาน ส่งผลให้เกิดอุบัติการมะเร็งท่อน้ำดีของภาคอีสานสูงเป็นอันดับหนึ่งของ ประเทศไทย และสูงที่สุดในโลก
4 กลุ่มเสี่ยงเหล่านี้ควรได้ร
ขอย้ำอีครั้ง โรคมะเร็งท่อน้ำดี เป็นโรคที่คร่าชีวิตคนไทยมา
พยาธิไม่ตายด้วยการบีบมะนาว
Permanent Link
https://10742.thaicarecloud.org/site/index?id=8
นวตกรรมสุขภาพโดยคนไทยเพื่อคนไทย
ภาพรวม CASCAP Tools